พุยพุย

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การบันทึกครั้งที่ 14
วันจันทร์  ที่ 14 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2559 

เนื้อหาที่เรียน 

           อาจารย์ให้นักศึกษามาส่งโครงการที่ให้ไปปรับแก้ในสับดาห์ก่อน และแก้ไขส่วนที่ยังผิดอีกครั้ง


การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- นำสิ่งที่อาจารย์แนะนำไปแก้ไขและปรับปรุงให้ดีเพื่อที่จะเป็นแนวทางในการทำโครงการต่อไป

การประเมินผล
ประเมินตนเอง :ตั้งใจฟังคำแนะนำและช่วยเพื่อนแก้โครงการกลุ่ม
ประเมินเพื่อน  : เพื่อนๆตั้งใจฟังที่อาจารย์แนะนำ
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ช่วยแก้และให้คำปรึกษาทุกข้อที่สงสัย

การบันทึกครั้งที่ 13
วันจันทร์  ที่ 7 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2559 
เนื้อหาที่เรียน 
     
              อาจารย์ได้ให้แต่ละกลุ่มเข้ามาพบทีละกลุ่มเพื่อคุยเรื่องโครงการรายกลุ่ม เพื่อที่จะนำไปปรับแก้ได้ถูกต้อง





การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- นำสิ่งที่อาจารย์แนะนำไปแก้ไข

การประเมินผล
ประเมินตนเอง :ตั้งใจฟังคำแนะนำและช่วยเพื่อนแก้โครงการกลุ่ม
ประเมินเพื่อน  : เพื่อนๆตั้งใจฟังที่อาจารย์แนะนำ
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ช่วยแก้และให้คำปรึกษาทุกข้อที่สงสัย



การบันทึกครั้งที่ 12
วันจันทร์ที่ 31 เดือนตุลาคม พ.ศ.2559

เนื้อหาที่เรียน 
          
             เริ่มต้นด้วยการนำเสนอเกี่ยวกับการทำโครงการของแต่ละกลุ่ม ที่ได้ทำแบบสอบถามผู้ปกครอง เพื่อจะได้รู้ถึงปัญหาของการลงพื้นที่ในการไปทำแบบสอบถาม และวิธีการแก้ปัญหาของแต่ละกลุ่ม  จากนั้นให้สรุปข้อมูลเป็นกลุ่ม

 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามของกลุ่มดิฉัน




การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- นำวิธีการแก้ปัญหาที่เพื่อนๆได้แนะนำไปใช้เมื่อเจอปัญหานั้นๆ

การประเมินผล
ประเมินตนเอง : ตั้งใจฟังและช่วยเพื่อนๆในกลุ่มสรุปผลของแบบสอบถาม
ประเมินเพื่อน  : เพื่อนๆก็ต่างตั้งใจสรุปแบบสอบถามตัวเอง
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์คอยดูแลและให้คำแนะนำได้ดีมาก



การบันทึกครั้งที่ 11
วันจันทร์ที่ 24 เดือนตุลาคม พ.ศ.2559

หยุดชดเชยวันปิยมหาราช


          
             เนื่องจากวันนี้ (23 ต.ค.) เป็นวันปิยมหาราช ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งวันที่สำคัญของคนไทย ทีมข่าว MThai จึงได้รวบรวมพระราชกรณียกิจในความทรงจำที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5  มาไว้ให้ได้ระลึกถึงกัน ดังนี้
พระราชกรณียกิจอันสำคัญ ที่ทำให้พระองค์ทรงได้รับพระสมัญญาว่า สมเด็จพระปิยมหาราช ก็คือ การเลิกทาส สมัยที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัตินั้น ประเทศไทยมีทาสเป็นจำนวนกว่าหนึ่งในสามของพลเมือง ของประเทศ  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีเลิกทาส การป้องกันการเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และจักรวรรดิอังกฤษ
นอกจากนี้ ได้มีการประกาศออกมาให้มีการนับถือศาสนาโดยอิสระในประเทศ บุคคลศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลามสามารถปฏิบัติการในศาสนาได้อย่างอิสระ รวมทั้งได้มีการนำระบบจากทางยุโรปมาใช้ในประเทศไทย ได้แก่ ระบบการใช้ธนบัตร และเหรียญบาท ใช้ระบบเขตการปกครองใหม่ เช่น มณฑลเทศาภิบาล จังหวัด และอำเภอ

             ด้านการสร้างถนน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ตัดถนนราชดำเนิน และถนนเยาวราช ส่วนถนนสายอื่นๆ ที่โปรดให้สร้างและบูรณะเพื่อความสะดวกในการสัญจรของราษฎร ได้แก่ ถนนบำรุงเมือง ถนนเจริญกรุง ถนนวังบูรพา ถนนอุณากรรณ ถนนดินสอ ถนนจักรพงษ์ ถนนพระอาทิตย์ ถนนพระสุเมรุ ถนนจักรเพชร ถนนมหาชัย ถนนสี่พระยา เป็นต้น
ด้านการสร้างสะพาน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานเชื่อมถนนข้ามคลอง เช่น สะพานผ่านฟ้าลีลาศ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ฯลฯ และยังได้จัดสร้างสะพาน ขึ้นเพื่อสาธารณประโยชน์เป็นประจำทุกปีในวันเฉลิมพระชนมพรรษาจนถึงปีสวรรคต รวม ๑๗ สะพาน
โดยพระราชทานนามสะพานขึ้นด้วยคำว่า “เฉลิม” และ ตัวเลขต่อท้ายระบุพระชนมพรรษา เช่น สะพานเฉลิมศรี ๔๒ สร้างเมื่อพุทธศักราช ๒๔๓๘ ขณะเจริญพระชนมพรรษา ๔๒ พรรษา นับเป็นสะพานแรก และสะพานสุดท้ายคือ สะพานเฉลิมสวรรค์ ๕๘
ด้านการไปรษณีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งกรมไปรษณีย์เป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๖ มีการส่งจดหมายพัสดุสิ่งของเป็นครั้งแรก เฉพาะภายในกรุงเทพฯ แล้วขยายออกบริเวณตามหัวเมือง เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๔๒๘
             ด้านการเสด็จประพาส  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงชื่นชอบการเสด็จประพาสเป็นยิ่งนัก พระองค์เสด็จประพาสทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ บางครั้งทรงปลอมพระองค์เป็นสามัญชนบ้าง ปลอมเป็นขุนนางบ้าง เพื่อเสด็จพระราชดำเนินดูแลทุกข์สุขของประชาชนในหัวเมืองต่างๆ มากมาย การเสด็จประพาสบ่อยครั้ง ทำให้ทอดพระเนตรเห็นสิ่งต่างๆ ทั้งที่ดี และไม่ดี สิ่งเหล่านี้พระองค์ได้นำไปพัฒนาบ้านเมืองให้มีความเจริญก้าวหน้าขึ้น
เราตั้งใจอธิษฐานว่า เราจะกระทำการจนเต็มกำลังอย่างที่สุด ที่จะให้กรุงสยามเป็นประเทศอันหนึ่ง ซึ่งมีอิสรภาพ และความเจริญ  กระแสพระราชดำรัสที่บ่งบอกถึงพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช รัชกาลที่5
ขณะนั้นประเทศแถบอินโดจีนได้ถูกรุกรานจากประเทศมหาอำนาจทางตะวันตก เนื่องจากประเทศในแถบอินโดจีนเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนา ทำให้ตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศมหาอำนาจได้โดยง่าย รวมถึงประเทศไทยก็เผชิญเช่นกัน ด้วยสายพระเนตรที่ยาวไกล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมแกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จประพาสยุโรป เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศมหาอำนาจเหล่านั้น อีกทั้งต้องการศึกษาวิทยาการต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงประเทศ และจากการเสด็จประพาสยุโรปของพระองค์ในครั้งนี้ก็ได้นำความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาการมาสู่บ้านเมืองของเรา

               การเสด็จประพาสยุโรปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ.๒๔๔๐ ได้ส่งผลดีในการเจริญสัมพันธไมตรีกับมหาอำนาจตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ ๒ แห่งรัสเซีย
                ซึ่งการเสด็จฯ เยือนรัสเซียครั้งนั้นนับว่าเป็นจุดสำคัญที่สุดของการเสด็จประพาสยุโรปทั้งหมด ข่าวการรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่รัสเซียในครั้งนั้น ทำให้ราชสำนักต่าง ๆ ในยุโรปตระหนักถึงความสำคัญของประเทศไทย ทำให้เกิดความเกรงใจอยู่ไม่น้อย
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับมหาอำนาจตะวันตกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้สะท้อนให้เห็นนโยบายของไทยที่ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม และยอมเสียดินแดนส่วนน้อย เพื่อรักษาดินแดนส่วนใหญ่ไว้
                ทั้งนี้ เพราะไทยเป็นประเทศเล็กที่มีกำลังน้อย ท่ามกลางประเทศเพื่อนบ้านที่ถูกยึดครองไปจนหมด ไทยจึงไม่อาจต่อรองด้วยกำลังกับชาติมหาอำนาจ แต่จะต้องพยายามแก้ปัญหาโดยใช้ “กลยุทธ์ทางการทูต” ในการรักษาเอกราชของชาติไว้ เห็นได้ชัดจากความสัมพันธ์ที่เกิดจากมิตรไมตรีขององค์ประมุขของไทยและ รัสเซีย ได้ช่วยให้ไทยสามารถดำเนินนโยบายถ่วงดุลอำนาจกับอังกฤษและฝรั่งเศส เพื่อรักษาอธิปไตยของไทยไว้ตามแนวสันติวิธี


การบันทึกครั้งที่ 10
วันจันทร์ที่ 17 เดือนตุลาคม พ.ศ.2559
เนื้อหาที่เรียน 

     ในสัปดาห์นี้อาจารย์มอบหมายให้ไปออกแบบสอบถามและส่ง เมื่อผ่านแล้วให้ลงพื้นที่เอาแบบสอบถามไปสอบถามผู้ปกครอง

แบบสอบถามกลุ่มดิฉัน





การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- เป็นการลงพื้นที่จริงเพื่อใช้ในโครงการที่กำลังจะทำและเป็นแบบให้โครงการต่อไปได้

การประเมินผล
ประเมินตนเอง : ได้ประสบการณ์ในการลงพื้นที่ 
ประเมินเพื่อน  : เพื่อนๆก็ต่างลงพื้นที่ทำแบบสอบถามตัวเอง
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์คอยให้คำแนะคำและช่วยในการดูหัวข้อ



การบันทึกครั้งที่ 9
วันจันทร์ที่ 10 เดือนตุลาคม พ.ศ.2559
เนื้อหาที่เรียน 

         การเขียนโครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย  โดยร่างโครงการที่แต่ละกลุ่มจะทำ เมื่อเขียนโครงการเสร็จ ให้แต่ละกลุ่มนำเสนอโครงการ


ตัวอย่างการเขียนโครงการ


รูปแบบการเขียนโครงการ


กลุ่มที่ 1 โครงการฟ.ฟัน ฟันสวย



กลุ่มที่ 2 โครงการการใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับเด็กปฐมวัย



กลุ่มที่ 3 หนังสือนิทานสร้างสรรค์สานสัมพันธ์สู่ครอบครัว



กลุ่มที่ 4 อาหารเด็กวัยใส



กลุ่มที่ 5 สื่อรักแสนสนุก  เสริมสร้างเพื่อลูกน้อย


การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- ใช้ในการเขียน ทำโครงการ โครงงาน ให้ความรู้ผู้ปกครอง

การประเมินผล
ประเมินตนเอง : วันนี้ก็ตั้งใจทำงานช่วยเพื่อนๆช่วยกันเขียนโครงการ 
ประเมินเพื่อน  : เพื่อนๆตั้งใจเขียนโครงการของแต่ละกลุ่มออกมาได้ดี และผ่านทุกกลุ่ม
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์มีการอธิบายและยกตัวอย่างเพื่อใ้นักศึกษาเข้าใจมากขึ้น


การบันทึกครั้งที่ 8
วันจันทร์ที่ 4 เดือนตุลาคม พ.ศ.2559

เนื้อหาที่เรียน 

       นำเสนองานวิจัยเกี่ยวกับการให้การศึกษาผู้ปกครอง  ซึ่งแต่ละกลุ่มได้ไปศึกษาค้นคว้ามานำเสนอในวันนี้ มีทั้งหมด 7 กลุ่ม 

กลุ่มที่ 1 
งานวิจัยเรื่อง : การให้ความรู้ผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการรู้หนังสือของเด็กวัยเตาะแตะ


กลุ่มที่ 2
งานวิจัยเรื่อง : การประยุกต์กระบวนการจิตตปัญญาศึกษาและเครือข่ายสังคมออนไลน์ในการส่งเสริมความรู้เด็กปฐมวัยสำหรับผู้ปกครอง

 กลุ่มที่ 3
งานวิจัยเรื่อง : การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของผู้ปกครองกับพฤติกรรมการมีส่วมร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้

กลุ่มที่ 4
งานวิจัยเรื่อง : การศึกษาความต้องการของผู้ปกครองเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ควรปลูกฝังและพฤติกรรมที่ปรากฎด้านคุณธรรมของเด็กปฐมวัย

กลุ่มที่ 5
งานวิจัยเรื่อง : การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการบริหารจัดการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตามหลักสังคหวัตถุ4 ต.ธารทหาร อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์

กลุ่มที่ 6
งานวิจัยเรื่อง : ความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อการจัดการศึกษาปฐมวัย

 กลุ่มที่ 7
งานวิจัยเรื่อง : ความสัมพันธ์ระหว่างการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในสถานศึกษา จ.ปทุมธานี

แบบประเมิน



งานวิจัยกลุ่มดิฉัน

           งานวิจัย เรื่อง  การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของผู้ปกครองกับพฤติกรรม การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย  กรุงเทพมหานคร

การศึกษาระดับ : มหาบัณฑิต
มหาวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ปีที่ทำวิจัย : 2554
ผู้วิจัย :  วิวรรณ  สารกิจปรีชา

บทนำ
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
         ประเด็นที่ 1 เพื่อศึกษาคุณลักษณะของผู้ปกครองนักเรียนโรงเรีนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ได้แก่ อาชีพ ระดับการศึกษาและการบริการทางวิชาการ
         ประเด็นที่ 2 เพื่อศึกษาพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรีนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ใน 6 ด้าน ได้แก่ การอบรมเลี้ยงดูเด็ก การติดต่อสื่อสาร การอาสาสมัคร การเรียนรู้ที่บ้าน  การตัดสินใจและการมีส่วนร่วมกับชุมชน
          ประเด็นที่ 3 เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของผู้ปกครอง ได้แก่ อาชีพ ระดับการศึกษา และการรับบริการทางวิชาการกับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนนักเรียนโรงเรีนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
          ประเด็นที่ 4 เพื่อศึกษาตัวแปรที่สามารถทำนายพฤติกรรมการมีส่วนร่วมผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรีนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 
1.จัดประสบการณ์ที่เน้นให้เด็กเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่คุ้นเคยและเกิดขึ้นหรือมีอยุ่ในชีวิตประจำวันของเด็ก
2.จัดประสบการณ์ให้เด็กเรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย
3.จัดสภาพแวดล้อมให้เด็กเรียนได้ทุกแห่งในโรงเรียน
4.ให้เด็กได้เรียนรู้ในสิ่งที่เด็กสามารถพบเห็นและเรียนรู้ทั่วไปไม่จำกัดเฉพาะในโรงเรียนเท่านั้น
5.จัดให้เด็กมีโอกาสเรียนรู้จากกิจกรรมเสรีของเด็กและกิจกรรมที่กำหนดกฎเกณฑ์อย่างสมดุล
6.จัดให้เด็กมีโอกาสทั้งภายในและนอกห้องเรียน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
 การให้ความรู้ด้านการพัฒนานักเรียนเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี จะส่งผลให้ผู้ปกครองเลี้ยงดูได้ถูกต้องและมีพัฒนาการที่ดี จะส่งผลให้ผู้ปกครองเลี้ยงดูได้ถูกต้องและมีพัฒนาการที่ดี วิธีการให้ความรู้ความสามารถทำได้อย่างหลากหลาย ส่วนการให้ความรู้ทั่วไปสามารถจัดทำเป็นรูปแบบวารสาร การอบรมสัมมนา การจัดป้ายนิเทศ ซึ่งควรเป็นการให้บริการที่หลากหลายและน่าสนใจ

ขอบเขตของการศึกษาวิจัย
1.ขอบเขตด้านเนื้อหา
 การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของผู้ปกครองกับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย  กรุงเทพมหานคร  จำแนกตามคุณลักษณะผู้ปกครองด้านอาชีพ  ระดับการศึกษา และการรับบริการทางวิชาการ
2.ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
 ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย
 2.1 ประชากร ได้แก่ ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย  กรุงเทพมหานคร 
 2.2 กลุ่มตัวอย่าง  ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย  กรุงเทพมหานคร ที่มีบุตรหลานกำลังศึกษาในระดับชั้นอนุบาล 1 – ชั้นอนุบาลปีที 3 ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2553 จำนวน 199 คน

ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย
ตัวแปรอิสระ คือ คุณลักษณะผู้ปกครอง
 1.อาชีพ
  1.1 รับราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ
  1.2 พนักงานเอกชน
  1.3 ทำงานส่วนตัว
 2.ระดับการศึกษา
  2.1 ปริญญาตรีและต่ำกว่า
  2.2 สูงกว่าปริญญาตรี
 3.การรับบริการทางวิชาการ
  3.1ความรู้ในการพัฒนานักเรียน
  3.2ความรู้ทั่วไป
ตัวแปรตาม คือ พฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนซึ่งประกอบด้วย
 1.การอบรมเลี้ยงดูเด็ก
 2.การติดต่อสื่อสาร
 3.การอาสาสมัคร
 4.การเรียนรู้ที่บ้าน
 5.การตัดสินใจ
 6.การมีส่วนร่วมกับชุมชน

นิยามศัพท์เฉพาะ
 1.โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ หมายถึง โรงเรียนเอกชนที่จัดการศึกษาปฐมวัยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ทำการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1- ชั้นอนุบาลปีที่ 3
2.ผู้ปกครอง หมายถึง พ่อแม่หรือญาติพี่น้องหรือบุคคลอื่นที่ให้การอุปการะ เลี้ยงดูเด็กเป็นผู้ให้ความรัก ความเอาใจใส่ อบรมสั่งสอน ตลอดจนให้การศึกษาแก่เด็ก
 3.นักเรียน หมายถึง เด็กที่กำลังศึกษาในระดับปฐมวัยวัย (ชั้นอนุบาลปีที่ 1-3) ภาคเรียน
ที่ 1 ปีการศึกษา 2553 ในโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย  กรุงเทพมหานคร 
 4.คุณลักษณะของผู้ปกครอง หมายถึง สถานะของบุคคลของผู้ปกครองนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีอยู่ในตัวตามสภาพของแต่ละบุคคล ได้แก่ อาชีพ  ระดับการศึกษา และการรับบริการทางวิชาการ
 5.พฤติกรรมกรมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน หมายถึง การกระทำหรืออาการแสดงออกในการที่ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ
วิธีดำเนินการวิจัย
 ประชากร ได้แก่ ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย  กรุงเทพมหานคร 
กลุ่มตัวอย่าง
 ผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย  กรุงเทพมหานคร ที่มีบุตรหลานกำลังศึกษาในระดับชั้นอนุบาล 1 – ชั้นอนุบาลปีที 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 199 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยได้สร้างและพัฒนาขึ้นเป็นแบบสอบถาม 3 ตอนคือ
 ตอนที่ 1 เป็นข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะผู้ปกครอง ได้แก่ อาชีพ และระดับการศึกษาเป็นแบบตรวจสอบรายการ (Checklist)
 ตอนที่ 2 แบบสอบถามการรับบริการทางวิชาการ การรับความรู้ในการพัฒนานักเรียนและการรับความรู้ทั่วไปของผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย  กรุงเทพมหานคร โดยผู้วิจัยสร้างแบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า มี 5 ระดับ คือ น้อยที่สุด น้อย ปานกลาง มากและมากที่สุด

การดำเนินการวิจัย 
            ขั้นตอนในการสร้างแบบสัมภาษณ์
            ขั้นที่ 1 ศึกษาแนวคิด ทฤษฎีและหลักการจากหนังสือ วารสาร เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
            ขั้นที่ 2 กำหนดโครงสร้างของแบบสัมภาษณ์และเนื้อหาให้ตรงกับนิยามศัพท์เฉพาะ
            ขั้นที่ 3 สร้างแบบสัมภาษณ์ตามขอบเขตเนื้อหา เสนออาจารย์ผู้ควบคุมสารนิพนธ์ และนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ชัดเจน ถูกต้องและตรงประเด็นตามคำแนะนำของอาจารย์ผู้ควบคุม
              ขั้นที่ 4 นำแบบสัมภาษณ์ไปให้ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย การจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ระดับปฐมวัย การจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ระดับปฐมวัยและการวัดผล / ประเมินผลตามสภาพจริงและอิงพัฒนาการของผู้เรียน เพื่อตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา วิเคราะห์ค่าดัชนีความสอดคล้อง ซึ่งได้ค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 0.8-1.0  
            ขั้นที่ 5 นำแบบสัมภาษณ์ที่ปรับปรุงแก้ไขและให้อาจารย์ผู้ควบคุมสารนิพนธ์ และผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความสมบูรณ์
            ขั้นที่ 6 ทดลองใช้ (try ont) กับผู้ปกครองที่ต่างอาชีพ ต่างระดับการศึกษา และเป็นผู้ปกครองของเด็กที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้นที่ต่างกัน จำนวน 3 คน และได้แบบสัมภาษณ์ที่สมบูรณ์
             ขั้นที่ 7 นำแบบสัมภาษณ์ที่สมบูรณ์ไปใช้สัมภาษณ์ผู้ปกครอง จำนวน 18 คน
             ขั้นที่ 8 สรุปจากแบบบันทึกการสัมภาษณ์เพื่อนำมาจัดทำแบบสอบถาม

สรุปผลการวิจัย
             ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของผู้ปกครองกับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ผู้วิจัยสรุปข้อค้นพบจากการศึกษาวิจัยได้ดังนี้
             1.การศึกษาคุณลักษณะของผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร พบว่าผู้ปกครองที่มีอาชีพรับราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานเอกชนทำงานส่วนตัว มีระดับการศึกษาปริญญาตรีและต่ำกว่า และจบการศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรี มีการรับบริการอยู่ในระดับรวมอยู่มาก ซึ่งด้านการรับความรู้ในการพัฒนานักเรียนและด้านการรับความรู้ทั่วไป มีระดับการรับบริการ อยู่ในระดับมากทั้งสองด้าน 
               2.การศึกษาพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โดยรวมมีการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับมาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้านพบว่า ด้านการเรียนรู้ที่บ้าน การอบรมเลี้ยงดูเด็ก การติดต่อสื่อสาร การตัดสินใจมีการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับมาก ส่วนด้านการมีส่วนร่วมกับชุมชนพบว่าผู้ปกครองมีส่วนร่วมอยู่ในระดับปานกลาง แต่ด้านการอาสาสมัครมีการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับน้อย
3.ผลของการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของผู้ปกครองกับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองพบว่า คุณลักษณะของผู้ปกครองที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.1 ได้แก่ คุณลักษณะของผู้ปกครองในการรับบริการทางวิชาการ ด้านความรู้ในการพัฒนานักเรียน โดยมีค่าความสัมพันธ์เท่ากับ .407 ส่วนด้านการรับความรู้ทั่วไป มีค่าความสัมพันธ์เท่ากับ .334 สำหรับตัวแปรด้านอาชีพ และระดับการศึกษา ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน เมื่อพิจารณาคำสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ กับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนมีค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์ระหว่าง -.096-.407
              4. ผลของการวิเคราะห์ตัวแปรที่มีความสามารถในการทำนายพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน พบว่า คุณลักษณะของผู้ปกครองในการรับบริการทางวิชาการ ด้านความรู้ในการพัฒนานักเรียนสามารถทำนายพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โดยความรู้ในการพัฒนานักเรียนเป็นตัวทำนายที่มีความสามารถในการทำนายมากที่สุด ได้ร้อยละ 17(R2=0.170)

ศึกษางานวิจัยเพิ่มได้ที่
 http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/Ed_Adm/Vivan_S.pdf

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- งานวิจัยที่เพื่อนๆนำเสนอ จะเป็นแนวทางในการทำวิจัยครั้งต่อไปของตัวเอง เป็นการนำมาประยุกต์และปรับใช้ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

การประเมินผล
ประเมินตนเอง:  นำเสนอได้ดีมีความพร้อม
ประเมินเพื่อน :   เพื่อนๆนำเสนอได้ดี ให้ประโยชน์และเนื้อหาครบถ้วน
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์ก็ให้ความรู้เกี่ยวกับการนำเสนองานวิจัยและเพิ่มเติมส่วนที่ขาดหาย